พื้นไม้ลามิเนตนั้นเป็นพื้นไม้ที่ผลิตขึ้นตามขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์    โดยมีไม้จริงเป็นส่วนประกอบแค่บางจุดเท่านั้น ซึ่งข้อดีที่หลายคนเลือกพื้นไม้ลามิเนต ให้กับบ้านของตนเองนั้น คือ สามารถเลือกสีและลวดลายได้ตามใจชอบ โดยไม้ลามิเนต 1 แผ่นจะประกอบไปด้วยชั้นต่างๆที่ก่อตัวกันขึ้นประมาณ 3-4 ชั้น นำมาอัดด้วยแรงอัดและความร้อนสูง ทำให้พื้นไม้ลามิเนตมีการพองตัวและหดตัวน้อยกว่าพื้นไม้ธรรมดาเช่นไม้จริงและไม้ปาร์เก้หลายเท่า ชั้นต่างๆ ของพื้นไม้สามารถแยกได้คร่าวๆ  3 ชั้นใหญ่ๆ อันได้แก่ ชั้นบน เป็นส่วนที่แสดงลายไม้ มีความทนทานสูงต่อแรงกดและกระแทก ไม่เกิดริ้วรอยบนพื้น ลวดลายของพื้นไม้ที่เราเห็นกันนั้นมาจากภาพถ่ายลายไม้เสมือนจริงและออกแบบโดยใช้คอมพิวเตอร์เข้าช่วย โดยนำไปเคลือบทับกับเมลามีนและเรซินอีกครั้ง ในส่วนชั้นกลางถือเป็นส่วนที่หนาที่สุด ทำด้วยกรรมวิธีที่เรียกว่า HDF Board อาจมีการใส่สารป้องกันความชื้นเข้าไปด้วย สุดท้ายชั้นล่าง เป็นชั้นสำหรับป้องกันความชื้น อาจมีการเคลือบเมลามีนเพิ่มความแข็งแรงและป้องกันความชื้นให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ที่กล่าวมาข้างต้นจึงเป็นที่มาของพื้นไม้ลามิเนตที่เราเห็นกันหลากหลายในปัจจุบัน
 
       ในการติดตั้งพื้นไม้ลามิเนต นั้นการจัดการและเตรียมพื้นที่สำหรับการติดตั้งถือเป็นสิ่งจำเป็น พื้นที่สำหรับการติดตั้งในแต่ละที่นั้นอาจมีที่มาและสภาพที่แตกต่างกัน     ในกรณีนี้เราสามารถให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญประเมินพื้นที่และให้คำแนะนำต่างๆ  สำหรับปูพื้นไม้ลามิเนต สำหรับพื้นที่รูปแบบต่างๆที่ต้องจัดเตรียมเพื่อปูพื้นได้แก่ พื้นเรียบขัดมัน ระดับพื้นต้องมีความเรียบเสมอกัน พื้นพรม จำเป็นต้องนำพรมออกก่อน และจัดการพื้นที่ให้เรียบร้อย สำหรับพื้นกระเบื้องสามารถติดตั้งพ้นไม้ลามิเนตได้ทันทีแต่ต้องแน่ใจว่าไม่มีการหลุดร่อนของกระเบื้อง  ควรตรวจสอบให้เรียบร้อย ในส่วนพื้นไม้ปาร์เก้ อาจมีปลวกอยู่ภายใต้พื้นเดิมแนะนำให้ทำการกำจัดปลวกให้เรียบร้อยให้หมดก่อนแล้วจึงเริ่มดำเนินการติดตั้งพื้นไม้ จะเห็นได้ว่าการเตรียมพื้นที่รูปแบบต่างๆสำหรับปูพื้นให้พร้อมนอกจากจะทำให้การปูพื้นสะดวกรวดเร็วแล้ว ยังช่วยลดเวลาในการติดตั้งและประหยัดงบประมาณในการซ่อมบำรุงไปในตัวได้อีกด้วย
 
         การเลือกพื้นไม้ลามิเนตนั้นนอกจากเรื่องคุณภาพ ยี่ห้อและความทนทานที่เป็นสิ่งช่วยในการตัดสินใจแล้ว สีสันและความสวยงามของลายไม้ลามิเนต ก็เป็นปัจจัยหนึ่งในการเลือกอีกด้วย หลายๆคนมักให้ความสำคัญกับลวดลายของวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่นำมาติดตั้งภายในบ้าน ทั้งเฟอร์นิเจอร์และพื้นไม้ก็เช่นกัน สำหรับสีพื้นไม้ลามิเนตที่มีผู้เลือกใช้และได้รับความนิยมเช่น สีเมเปิล เป็นพื้นสีโทนขาว ทำให้พื้นที่ที่ได้รับการติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตดูสว่างมากยิ่งขึ้น ทำให้รู้สึกกว้าง แต่ข้อเสียอาจจะเห็นร่องรอยสกปรกได้ง่าย สีบีช แนวสีออกโทนเหลือง ช่วยให้ห้องดูสว่างและกว้างขึ้นเหมือนกับสีเมเปิล เหมาะกับห้องเด็ก สีโอ๊ค ในส่วนของสีนี้จะออกแนวโทนน้ำตาลเหมือนสีไม้ธรรมชาติ ทำให้ห้องและพื้นที่ดูอบอุ่น เป็นระเบียบเรียบร้อย หรูหรา อลังการและที่สำคัญเป็นสีที่ดูแลรักษาง่าย การเลือกสีของพื้นไม้ลามิเนตจึงเป็นสิ่งที่คุณควรศึกษาและจดจำเพื่อให้คุณได้สีของพื้นไม้ลามิเนตที่เหมาะกับตัวเองและที่พักอาศัยมากที่สุด
 
          หลังจากการติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะอยู่ในส่วนการดูแลรักษา ซึ่งพื้นไม้ลามิเนตนั้นการดูแลจะไม่แตกต่างจากพื้นไม้ธรรมดามากนัก ที่เหมือนกันจะเป็นเรื่องของการทำความสะอาด ควรทำความสะอาดพื้นไม้ลามิเนต ดังตัวอย่างต่อไปนี้ ในการทำความสะอาดเบื้องต้น ให้ใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาด เช็ดให้ทั่วบริเวณพื้นไม้ ไม่ควรใช้น้ำยาที่เป็นกรดเพราะอาจทำให้พื้นไม้เกิดความเสียหาย สังเกตการณ์รั่วซึมตามจุดต่างๆ และทำการซ่อมแซมให้เรียบร้อย ตรวจสอบยาแนวของวงกบประตูและหน้าต่างเพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำเข้ามาในตัวบ้าน ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายกับพื้นไม้ลามิเนตได้ หากพื้นไม้มีอาการบวมในส่วนของรอยต่อ ไม่ควรทำการเช็ดทำความสะอาด และสังเกตว่าอาการบวมของไม้เป็นอย่างไรบ้าง มีการลดลงหรือไม่ หากไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเองควรเรียกช่างที่มีความรู้และเป็นช่างที่เคยติดตั้งพื้นไม้ให้กับบ้านของคุณเป็นคนแก้ไขจะดีกว่า การดูแลรักษาพื้นไม้ลามิเนต จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยหากคุณรู้วิธีที่ถูกต้องและรับมือปัญหาที่เกิดขึ้นในตอนนั้นได้
 
        ในการเลือกซื้อพื้นไม้ลามิเนตนั้นหลายคนอาจเห็นราคาหลากหลายมากมาย          ซึ่งแต่ละราคานั้นแตกต่างกันที่คุณภาพและความทนทาน รวมไปถึงวัสดุและความสวยงามด้วย โดยทั่วไปแล้วเราสามารถสังเกตคุณภาพของพื้นไม้ลามิเนตได้จากช่วงราคา โดยปกติแล้วช่วงราคามีทั้งหมด 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงราคาประมาณ 500 บาท จะเป็นพื้นไม้ที่ผลิตจากประเทศจีนหรือประเทศไทย คุณภาพปานกลางค่อนไปทางต่ำ เหมาะกับงานบูธสินค้า ไม่เหมาะกับที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่ง ต่อไปช่วงราคาต่ำกว่า 1,000 บาท มาจากทั้งมาเลเซีย จีน ไทยและยุโรป คุณภาพค่อนข้างดี อายุการใช้งานค่อนข้างสูง สำหรับช่วงราคาสุดท้ายได้แก่ ราคาสูงกว่า 1,000 บาทขึ้นไป ไม้ลามิเนตราคาระดับนี้แน่นอนว่าต้องคุณภาพระดับไฮเอนด์คือคุณภาพระดับดีเป็นพิเศษ เหมาะแก่การใช้สำหรับที่พักอาศัย โชว์รูมต่างๆ โรงแรมระดับหรูเป็นต้น มีความสวยงามและความทนทานในระดับสูง จะเห็นได้ว่าช่วงราคาของพื้นไม้แต่ละช่วงก็สามารถเป็นตัวตัดสินใจในการเลือกซื้อพื้นไม้ลามิเนต ของคุณได้เช่นกัน ทั้งนี้หากแน่ใจสามารถขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด